สุขภาพ

คนที่มีกรุ๊ปเลือดที่ไม่ใช่ O มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคเบาหวาน | ผู้ที่ไม่มีหมู่เลือด ‘O’ มีความเสี่ยงสูงสุดในการเป็นโรคเบาหวาน: การศึกษา

นิวเดลี: จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่ามีผู้ป่วยโรคเบาหวานมากกว่า 43 ล้านคนทั่วโลกในจำนวนนี้มีผู้ป่วยประมาณ 8 ล้านคนในอินเดีย โรคเบาหวานเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตซึ่งเมื่อไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสามารถควบคุมโรคได้ จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) หากคุณเป็นโรค prediabetic คุณสามารถป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2 ได้โดยการเปลี่ยนวิถีชีวิต แต่นอกเหนือจากวิถีชีวิตแล้วยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมากมายที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานและหนึ่งในนั้นคือกลุ่มเลือดของคุณ

คนหมู่เลือด O มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานต่ำที่สุด

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Diabetology of the European Association พบว่าผู้ที่ไม่มีหมู่เลือด O เช่นผู้ที่มีหมู่เลือด A และ B มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 มากกว่าผู้ที่ไม่มี กรุ๊ปเลือดคือ O ในการศึกษานี้มีผู้หญิง 80,000 คนและมีความพยายามที่จะทราบว่าอะไรคือความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มเลือดกับโรคเบาหวานประเภท 2 ในจำนวนนี้โรคเบาหวานประเภท 2 ได้รับการวินิจฉัยในผู้หญิง 3 พัน 553 คนและผู้ที่ไม่มีหมู่เลือด O มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะเป็นโรคนี้

อ่านเพิ่มเติม – อบเชยเป็นยาครอบจักรวาลในการควบคุมน้ำตาลในเลือดในโรคเบาหวานนี่คือวิธีใช้

ผู้ที่มีหมู่เลือด B มีความเสี่ยงสูงสุดในการเป็นโรคเบาหวาน

ผู้หญิงในการศึกษานี้ที่มีหมู่เลือด A มีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 สูงกว่าผู้หญิงที่มีเลือดกรุ๊ป O ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันผู้หญิงที่มีหมู่เลือด B มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 มากกว่าผู้หญิงที่มีหมู่เลือด O ถึง 21 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่ควรทราบอีกประการหนึ่งจากการศึกษาครั้งนี้คือผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด O negative มีความเสี่ยงต่ำที่สุดในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 และผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดบวก B สูงที่สุด

อ่านเพิ่มเติม – อาการมือและเท้าบวมก็เป็นอาการของโรคเบาหวานได้เช่นกันอย่าเพิกเฉยต่อสัญญาณเหล่านี้

อะไรคือความเชื่อมโยงระหว่างหมู่เลือดกับความเสี่ยงโรคเบาหวานเมื่อลองค้นหาพบว่าโปรตีนชนิดพิเศษพบในผู้ที่ไม่มีหมู่เลือด O เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังพบโมเลกุลดังกล่าวจำนวนมากในร่างกายของกลุ่มเลือด A และ B ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานประเภท 2

(หมายเหตุ: ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ทุกครั้งก่อนดำเนินการแก้ไข Zee News ไม่อ้างความรับผิดชอบต่อข้อมูลนี้)

คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความเกี่ยวกับสุขภาพอื่น ๆ

Back to top button