สุขภาพ

รู้ประโยชน์และผลข้างเคียงของ ragi ก่อนบริโภค | ประโยชน์ของรากิ: ไม่เพียง แต่ในการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อีกมากมายในการรับประทานรากิที่อุดมไปด้วยโปรตีน

นิวเดลี: คนส่วนใหญ่ที่ตระหนักถึงสุขภาพควบคู่ไปกับการลดน้ำหนักในปัจจุบันเปลี่ยนแป้งข้าวบาร์เลย์แป้งข้าวฟ่างแป้งราชคฤห์หรือแป้งบานไม่รู้โรยแป้งถั่วเหลืองแป้งสัตว์ปีกแทนแป้งสาลีปกติ เป็นต้นได้เริ่มใช้. อีกหนึ่งทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพเช่น Ragi ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Finger Millet Ragi เรียกอีกอย่างว่า Nachni ในหลาย ๆ ที่

Ragi เต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย

ส่วนที่ดีที่สุดคือแป้ง ragi มีคอเลสเตอรอลและโซเดียมเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์ในขณะที่ปริมาณไขมันมีเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารแคลเซียมโปรตีนโพแทสเซียมเหล็ก เนื่องจากโปรตีนและไฟเบอร์ถือว่าดีที่สุดสำหรับการลดน้ำหนัก นอกเหนือจากนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมายของ ragi

นอกจากนี้ยังอ่าน – ไม่เพียง แต่แตงโมเท่านั้นเมล็ดของมันยังมีความพิเศษอีกมากมายที่ควรรู้ก่อนโยนทิ้ง

1. มีประโยชน์ในการควบคุมโรคเบาหวาน – Ragi มีโพลีฟีนอลและไฟเบอร์สูงกว่าแป้งสาลีหรือแป้งข้าวเจ้าและยังมีดัชนีน้ำตาลต่ำ ดังนั้นจึงช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อาจเป็นประโยชน์ที่จะรวม ragi ในอาหารเช้าตอนเช้าหรือในมื้อกลางวันของวัน

2. ประโยชน์ในโรคโลหิตจาง – ธาตุเหล็กเป็นแหล่งที่ดีที่สุดของธาตุเหล็กดังนั้นหากคนเป็นโรคโลหิตจางหรือมีฮีโมโกลบินในร่างกายต่ำเขาก็ควรกินรากีอย่างแน่นอน

3. แหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม – Ragi อุดมไปด้วยกรดอะมิโนและโปรตีนที่ร่างกายต้องการ อาหารของคนกินเจมักขาดแหล่งโปรตีน ในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาสามารถกินรากิเพื่อให้โปรตีนขาดได้

4. ความเครียดอยู่ในระดับต่ำ – Ragi มีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากซึ่งช่วยในการลดความเครียด หากคุณมีปัญหาวิตกกังวลซึมเศร้าหรือนอนไม่หลับคุณต้องกินรากิ สิ่งนี้จะได้รับประโยชน์

อ่านเพิ่มเติม – ชาน้ำตาลโตนดมีประโยชน์มากมายช่วยในการควบคุมความดันโลหิต

การสูญเสีย ragi

หากมีปัญหาเกี่ยวกับนิ่วหรือไตในไตคนดังกล่าวไม่ควรกินรางิเพราะมีแคลเซียมในปริมาณสูง
– ผู้ป่วยไทรอยด์ไม่ควรรับประทานรากิมิฉะนั้นปัญหาอาจเพิ่มขึ้น
– เนื่องจากการรับประทานรากีมากเกินไปอาจมีปัญหาเช่นท้องผูกท้องเสียมีแก๊สในกระเพาะอาหารท้องอืด

(หมายเหตุ: ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ทุกครั้งก่อนดำเนินการแก้ไข Zee News ไม่อ้างความรับผิดชอบต่อข้อมูลนี้)

คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความเกี่ยวกับสุขภาพอื่น ๆ

Back to top button