สุขภาพ

สี่ขั้นตอนของน้ำนมบำรุงผิวหน้าที่บ้านจะได้รับประโยชน์มากมาย janiye facial ke ขั้นตอน aur ปฏิสัมพันธ์ samp | ประโยชน์ของน้ำนมบำรุงผิวหน้า : ทำหน้าที่บ้านเพียง 4 ขั้นตอน ผิวจะได้ชีวิตใหม่

เนื่องจากวิถีชีวิตที่ตึงเครียดและมลภาวะที่เพิ่มขึ้น ร่างกายของเราจึงอยู่ภายใต้ความเครียดตลอดเวลา อาการของความเครียดจะปรากฏบนผิวหนังของเราเป็นอันดับแรก เนื่องจากอาจมีปัญหาฝ้า ริ้วรอย ผิวไม่มีชีวิตชีวา หัวดำ ฯลฯ แต่คุณสามารถดูแลผิวหน้าได้ที่บ้านด้วยน้ำนมช่วยและให้ชีวิตใหม่แก่ผิวของคุณ สิ่งนี้จะทำให้คุณมีใบหน้าที่ไร้ที่ติและเปล่งประกาย แจ้งให้เราทราบวิธีการทำใบหน้าที่บ้านด้วยความช่วยเหลือของนม

อ่านเพิ่มเติม: น้ำมันผมโฮมเมด: วิธีแก้ไขบ้านเพื่อทำให้ผมขาวเป็นสีดำจากราก ทำน้ำมันแบบนี้ที่บ้าน

4 ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำหน้าด้วยน้ำนมโฮมเมด (4 ขั้นตอนของน้ำนมบำรุงผิวหน้า)
การทำโฮมเมดมิลค์เฟเชียลจะทำให้ใบหน้าของคุณสะอาด กำจัดหัวดำ ฯลฯ มาบอกวิธีทำน้ำนมบำรุงผิวหน้าใน 4 ขั้นตอน

น้ำนมบำรุงผิวหน้า: ขั้นตอนที่ 1
ในขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวหน้าด้วยน้ำนม คุณต้องทำความสะอาดผิว ซึ่งเรียกว่าเคลียส ด้วยเหตุนี้ผิวจึงสะอาดจากภายในและจุดด่างดำก็จางลง เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ผสมน้ำมะนาวสักสองสามหยดในน้ำนมดิบแล้วนวดให้ทั่วใบหน้าด้วยมือที่เบา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีหลังการนวดแล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

ขั้นตอนบำรุงผิวหน้าด้วยน้ำนม: ขั้นตอนที่ 2
ในขั้นตอนที่สองของผิวหน้า คุณต้องทำการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งจะขจัดเซลล์ที่ตายแล้วบนผิวหน้า สำหรับสิ่งนี้ คุณต้องผสมถั่วเลนทิลผงในนม ตอนนี้ให้วางมันและขัดผิวบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาทีหลังสครับแล้วล้างหน้า

อ่านเพิ่มเติม: ครีมโฮมเมด: กำจัดขนที่ไม่ต้องการด้วยยาสีฟัน จะได้รับอิสรภาพจากความเจ็บปวดจากการแว็กซ์และการร้อยไหม

แพ็คใบหน้าในขั้นตอนที่3
หากต้องการทำแพ็คหน้าจากนม ให้ใส่ขมิ้นเล็กน้อยลงในน้ำนมดิบ ทำแป้งโดยผสมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน ตอนนี้ใช้แปะนี้อย่างสม่ำเสมอบนใบหน้าและปล่อยให้แห้งประมาณ 10 ถึง 15 นาที เมื่อแห้งให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

ใบหน้าที่บ้าน: ขั้นตอนที่ 4 สำคัญที่สุด
ในขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวหน้าด้วยน้ำนม คุณต้องปรับโทนและให้ความชุ่มชื้นกับใบหน้า สำหรับสิ่งนี้ ให้ผสมน้ำนมดิบกับน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน ตอนนี้นวดแป้งนี้ให้ทั่วใบหน้า ขั้นตอนนี้จะช่วยบำรุงผิวและให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ

ข้อมูลที่ให้ไว้ที่นี่ไม่ได้ใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ใดๆ จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาเท่านั้น

Back to top button